Friday, May 6, 2016

รถไฟขยี้กระบะมูลนิธิการกุศลดับสยองยกคัน 4 ศพที่ชะอำ ลากซากรถไปไกล 700 เมตร

 

 เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 6 พ.ค. ร.ต.ท.สยุมภู สิทธิกุล ร้อยเวร สภ.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ บริเวณทางข้ามรถไฟบ้านหนองคาง เขตเทศบาลเมืองชะอำ ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีผู้เสียชีวิตหลายราย จึงรุดตรวจไปตรวจสอบ พร้อมด้วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จ.เพชรบุรี และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่


 ที่เกิดเหตุพบรถไฟ SRT 1246 เป็นรถไฟนำเที่ยวลักษณะ 3 ตู้ กรุงเทพฯ-สวนสนประดิพัทธ์ จอดอยู่ห่างจากทางข้ามเส้นทางรถไฟ ไปราว 100 เมตร เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันนำผู้ที่เสียชีวิตที่ติดอยู่ภายในซากรถกระบะตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 1 ฒน 1768 กรุงเทพมหานคร ที่ถูกอัดติดอยู่บริเวณหน้ารถไฟ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตัดถ่าง และอุปกรณ์ช่วยดึงเอาซากรถออกจากด้านหน้าขบวนรถไฟ


  จากนั้น ช่วยกันงัดนำร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกอัดติดอยู่ภายในจำนวน 3 ราย ออกมา และมีผู้เสียชีวิตกระเด็นออกมารถซากรถอีก 1 ราย สภาพศพทั้งหมดมีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วร่างกาย ศีรษะแตก แขนขาหัก ทราบชื่อภายหลังประกอบด้วย 1.นายอินเปล่ง วุฒิไชย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 198 หมู่ 1 ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน พบบัตรเป็นสมาชิกฝ่ายจัดหาทุนมูลนิธิอินทรบุญฤทธิเจริญธรรมการกุศล 2.นายชุมพร วุฒิไชย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ 18 ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน 3.นายอำนาจ ทิปปกะ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่1 ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน และ 4.นางเครือวัลย์ วุฒิไชย อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 9 ต.จอมพระ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ส่วนขบวนรถไฟไม่สามารถวิ่งได้ เนื่องจากหม้อเบรคลมแตก ทางเจ้าหน้าที่ต้องนำขบวนรถไฟมารับผู้โดยสาร เพื่อเดินทางไปยังจุดหมาย ตรวจสอบพื้นที่บริเวณทางข้ามรถไฟ พบว่าเครื่องกั้นถูกชนเสียหายหลายแห่ง รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณทางข้ามรถไฟ

 จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า บริเวณทางข้ามรถไฟที่ถูกชนจนอุปกรณ์ต่างๆ ได้รับความเสียหายนั้น ไม่ใช่จุดเกิดเหตุ แต่จุดเกิดเหตุเป็นทางข้ามรถไฟที่อยู่ใกล้กัน และใกล้กับสถานีรถไฟห้วยทรายเหนือ เป็นเส้นทางข้ามที่ไม่มีเครื่องกั้น แต่มีป้ายแจ้งเตือนขนาดใหญ่ให้ระวังระไฟ คาดว่ารถคันที่เกิดเหตุกำลังวิ่งข้ามเส้นทางรถไฟ โดยไม่ได้มอง เป็นจังหวะที่รถไฟขบวนดังกล่าววิ่งมาพอดี และชนเข้ากลางคันด้วยความเร็ว ทำให้รถไฟลากรถกระบที่มีผู้ตายทั้ง 4 ราย นั่งอยู่ในรถครูดไปกับทางรถไฟ ไปชนกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ระหว่างทาง ไปชนอุปกรณ์เครื่องกั้นบริเวณจุดทางข้ามรถไฟจุดที่เสียจนได้รับความเสียหาย ก่อนที่รถไฟจะลากซากรถไปหยุดนิ่งซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุราว 700 เมตร

 ทั้งนี้ ระหว่างเส้นทางที่รถไฟลากเอาซากรถไปนั้น ก่อนจะถึงจุดทางข้ามรถไฟจุดที่ 2 ที่มีเครื่องกั้น พบกระเป๋าเดินหน้าจำนวน 3 ใบ มีเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้อยู่ภายใน ยังพบเอกสารมูลนิธิอินทรบุญฤทธิ์เจริญธรรมการกุศล เรื่องขอความอนุเคราะห์ร่วมสมทบทุน มูลนิธิฯเพื่อช่วยเหลือศพผู้ยากไร้ ศพไม่มีญาติ เด็กกำพร้า เด็กยากจน ฯลฯ รวมถึงรูปถ่ายกิจกรรมต่างๆ และรายการอัตราค่าบริจาคเพื่อร่วมทำบุญตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนของตำรวจเบื้องต้นคาดว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายทั้งหมดน่าจะขับรถที่ประสบเหตุ มาเรี่ยไรเงินทำบุญตามหมู่บ้านในพื้นที่ดังกล่าว แต่ระหว่างที่ขับรถข้ามทางรถไฟตรงจุดเกิดเหตุ ซึ่งไม่มีเครื่องกั้น เนื่องจากไม่ใช่คนพื้นที่ และไม่ได้มองว่ามีรถไฟมาหรือไม่ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถไฟนำเที่ยวมาพอดี จึงชนเข้าอย่างแรงและลากไปกว่า 700 เมตร จนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ส่วนมูลนิธิฯการกุศลตามเอกสารที่พบ จะมีจริงหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

 ด้านนายมนัส สามคุ้มทิม พนักงานรักษารถ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขบวนรถไฟออกจากกรุงเทพฯตอน 06.30 น. วันนี้โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทั้งหมด 140 คน หลังเกิดเหตุตรวจสอบแล้วไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นการรถไฟนำรถมาขนถ่ายนักท่องเที่ยว เพื่อให้ไปเที่ยวกันต่อมาตามกำหนดการเดิม ส่วนตู้ที่ชำรุดอาจต้องฝากไว้ที่สถานีใดสักสถานีหนึ่งก่อน เพื่อซ่อมแซมรถให้สมบูรณ์ เพื่อที่ขากลับจะได้รับผู้โดยสารกลับเหมือนเดิม

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets